• 1 กษัตริย์ 8
    • 1 แล้วซาโลมอนได้ทรงเรียกประชุมพวกผู้อาวุโสแห่งอิสราเอล และบรรดาหัวหน้าของเผ่าต่าง ๆ หัวหน้าของบรรพบุรุษลูกหลานของอิสราเอล ต่อพระพักตร์กษัตริย์ซาโลมอนในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อพวกเขาจะอัญเชิญหีบแห่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ขึ้นมาจากนครของดาวิด ซึ่งคือเมืองศิโยน
    • 2 และผู้ชายทั้งสิ้นของอิสราเอลได้ประชุมกันต่อพระพักตร์กษัตริย์ซาโลมอนที่การเลี้ยงในเดือนเอธานิม ซึ่งเป็นเดือนที่เจ็ด
    • 3 และพวกผู้อาวุโสทั้งสิ้นของอิสราเอลได้เข้ามา และพวกปุโรหิตได้ยกหีบ
    • 4 และพวกเขาได้อัญเชิญหีบของพระเยโฮวาห์ขึ้นมา และพลับพลาแห่งชุมนุมชน และภาชนะบริสุทธิ์ทั้งสิ้นที่อยู่ในพลับพลา ของเหล่านั้นพวกปุโรหิตและคนเลวีได้หามขึ้นมา
    • 5 และกษัตริย์ซาโลมอน และชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นที่ได้ประชุมกันต่อพระพักตร์พระองค์ อยู่กับพระองค์ต่อหน้าหีบ โดยถวายแกะและวัวตัวผู้มากมาย ที่จะนับหรือบันทึกก็ไม่ได้เพราะว่ามีเป็นจำนวนมาก
    • 6 และพวกปุโรหิตได้อัญเชิญหีบแห่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์มายังสถานที่ของหีบนั้น เข้ามาในห้องหลังสุดของพระนิเวศน์ มายังสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด คือภายใต้ปีกของพวกเครูบนั้น
    • 7 ด้วยว่าพวกเครูบได้กางปีกทั้งสองของตนออกเหนือสถานที่ของหีบ และพวกเครูบได้คลุมหีบและไม้คานหามของหีบนั้นข้างบน
    • 8 และพวกเขาได้ดึงพวกคานหามของหีบนั้นออกบ้าง จนส่วนปลายของคานหามเหล่านั้นถูกมองเห็นในห้องบริสุทธิ์ข้างหน้าห้องหลังสุด และคานหามเหล่านั้นไม่ถูกเห็นจากข้างนอก และพวกคานหามก็ยังอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้
    • 9 ไม่มีสิ่งใดในหีบนอกจากแผ่นศิลาสองแผ่นนั้น ซึ่งโมเสสได้ใส่ไว้ที่นั่น ณ ภูเขาโฮเรบ เมื่อพระเยโฮวาห์ได้ทรงกระทำพันธสัญญากับลูกหลานของอิสราเอล เมื่อพวกเขาได้ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
    • 10 และต่อมาเมื่อพวกปุโรหิตออกมาจากสถานที่บริสุทธิ์ เมฆก็เต็มพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์
    • 11 จนพวกปุโรหิตไม่สามารถยืนปรนนิบัติอยู่ได้เพราะเหตุเมฆนั้น เพราะว่าสง่าราศีของพระเยโฮวาห์ได้เต็มพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์แล้ว
    • 12 แล้วซาโลมอนตรัสว่า “พระเยโฮวาห์ได้ตรัสว่า พระองค์จะประทับในความมืดทึบ
    • 13 ข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศน์ถวายแด่พระองค์เพื่อเป็นที่ประทับเป็นแน่ เป็นสถานที่ถาวรเพื่อพระองค์จะทรงสถิตอยู่เป็นนิตย์”
    • 14 และกษัตริย์ได้ทรงหันพระพักตร์พระองค์ และทรงอวยพรชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้น (และชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นก็ยืนขึ้น)
    • 15 และพระองค์ตรัสว่า “สาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ซึ่งได้ตรัสไว้ด้วยพระโอษฐ์ของพระองค์แก่ดาวิดราชบิดาของเรา และได้ทรงทำให้สิ่งนั้นสำเร็จด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ โดยตรัสว่า
    • 16 ‘ตั้งแต่วันที่เราได้นำอิสราเอลประชากรของเราออกมาจากอียิปต์ เรามิได้เลือกนครใดออกจากเผ่าทั้งสิ้นของอิสราเอลเพื่อจะสร้างนิเวศน์หลังหนึ่ง เพื่อนามของเราจะอยู่ที่นั่น แต่เราได้เลือกดาวิดให้อยู่เหนืออิสราเอลประชากรของเรา’
    • 17 และสิ่งนี้ได้อยู่ในพระทัยของดาวิดราชบิดาของเราแล้วที่จะสร้างพระนิเวศน์สำหรับพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
    • 18 และพระเยโฮวาห์ได้ตรัสกับดาวิดราชบิดาของเราว่า ‘ที่สิ่งนี้ได้อยู่ในใจของเจ้าที่จะสร้างนิเวศน์สำหรับนามของเรานั้น เจ้าก็ได้ทำดีอยู่แล้วที่สิ่งนี้อยู่ในใจของเจ้า
    • 19 แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องไม่สร้างนิเวศน์นั้น แต่บุตรชายของเจ้าที่จะออกมาจากบั้นเอวของเจ้า เขาจะสร้างนิเวศน์ถวายแด่นามของเรา’
    • 20 และพระเยโฮวาห์ได้ทรงทำให้พระดำรัสของพระองค์ที่พระองค์ได้ตรัสไว้นั้นสำเร็จแล้ว และเราได้ขึ้นมาแทนดาวิดราชบิดาของเรา และนั่งอยู่บนพระที่นั่งของอิสราเอล ตามที่พระเยโฮวาห์ได้ทรงสัญญาไว้ และเราได้สร้างพระนิเวศน์หลังหนึ่งสำหรับพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลแล้ว
    • 21 และที่นั่นเราได้กำหนดสถานที่ไว้สำหรับหีบแล้ว ซึ่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์อยู่ในหีบนั้น ซึ่งพระองค์ได้ทรงทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเรา เมื่อพระองค์ได้ทรงนำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์”
    • 22 และซาโลมอนได้ประทับยืนอยู่หน้าแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ต่อหน้าชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้น และกางพระหัตถ์ของพระองค์ออกสู่ฟ้าสวรรค์
    • 23 และพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าองค์ใดเหมือนพระองค์ ในสวรรค์เบื้องบน หรือบนแผ่นดินโลกเบื้องล่าง ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความเมตตากับบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ ที่ดำเนินอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ด้วยสิ้นสุดใจของพวกเขา
    • 24 ผู้ได้ทรงรักษาบรรดาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้แก่ดาวิดราชบิดาของข้าพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ได้ตรัสเช่นกันด้วยพระโอษฐ์ของพระองค์ และได้ทรงทำให้สิ่งนั้นสำเร็จด้วยพระหัตถ์ของพระองค์แล้ว ดังที่ปรากฏวันนี้
    • 25 เพราะฉะนั้นบัดนี้ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขอทรงรักษาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ราชบิดาของข้าพระองค์ โดยตรัสว่า ‘เจ้าจะไม่ขาดชายผู้หนึ่งในสายตาของเราที่จะนั่งบนพระที่นั่งแห่งอิสราเอล เพื่อลูกหลานทั้งหลายของเจ้าจะระมัดระวังในวิถีทางของพวกเขา ที่พวกเขาจะดำเนินต่อหน้าเราอย่างที่เจ้าได้ดำเนินต่อหน้าเรานั้น’
    • 26 และบัดนี้ โอ ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขอพระวจนะของพระองค์ ข้าพระองค์ขออ้อนวอนต่อพระองค์ ได้รับการยืนยัน ซึ่งพระองค์ได้ตรัสกับผู้รับใช้ของพระองค์ คือดาวิดราชบิดาของข้าพระองค์
    • 27 แต่พระเจ้าจะประทับบนแผ่นดินโลกอย่างแท้จริงหรือ ดูเถิด ฟ้าสวรรค์และสวรรค์แห่งฟ้าสวรรค์ทั้งปวงไม่สามารถรองรับพระองค์ไว้ได้ พระนิเวศน์ที่ข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นจะรับพระองค์ไม่ได้ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด
    • 28 แต่ขอพระองค์ทรงใส่พระทัยต่อคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และต่อคำวิงวอนของเขา โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ที่จะทรงตั้งใจฟังเสียงร้องทูลและคำอธิษฐานซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์อธิษฐานต่อพระพักตร์พระองค์วันนี้
    • 29 เพื่อที่พระเนตรของพระองค์จะเปิดอยู่มาทางพระนิเวศน์นี้ ทั้งกลางคืนและกลางวัน คือมาทางสถานที่ซึ่งพระองค์ได้ตรัสว่า ‘นามของเราจะอยู่ที่นั่น’ เพื่อพระองค์จะทรงตั้งใจฟังคำอธิษฐาน ซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์จะอธิษฐานตรงต่อสถานที่แห่งนี้
    • 30 และขอพระองค์ทรงตั้งใจฟังคำวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ และของอิสราเอลประชากรของพระองค์ เมื่อพวกเขาจะอธิษฐานตรงต่อสถานที่แห่งนี้ และขอพระองค์ทรงสดับฟังในสวรรค์อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงสดับฟังแล้ว ขอทรงยกโทษ
    • 31 ถ้าชายคนใดกระทำการละเมิดต่อเพื่อนบ้านของเขา และเขาจะต้องปฏิญาณตัวด้วยคำสัตย์สาบาน และเขามาปฏิญาณตัวต่อหน้าแท่นบูชาของพระองค์ในพระนิเวศน์นี้
    • 32 แล้วขอพระองค์ทรงสดับฟังในสวรรค์ และขอทรงกระทำ และทรงพิพากษาพวกผู้รับใช้ของพระองค์ โดยทรงปรับโทษคนชั่ว เพื่อจะนำวิถีทางของเขาให้กลับตกบนศีรษะของเขาเอง และโดยทรงประกาศความบริสุทธิ์ของผู้ชอบธรรม เพื่อประทานแก่เขาตามความชอบธรรมของเขา
    • 33 เมื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์พ่ายแพ้ต่อหน้าศัตรู เพราะเหตุพวกเขาได้กระทำบาปต่อพระองค์ และจะหันกลับมาหาพระองค์อีก และกล่าวยอมรับพระนามของพระองค์ และอธิษฐาน และกระทำการวิงวอนต่อพระองค์ในพระนิเวศน์นี้
    • 34 เมื่อนั้นขอพระองค์ทรงสดับฟังในสวรรค์ และขอทรงยกโทษบาปของอิสราเอลประชากรของพระองค์ และขอทรงนำพวกเขากลับมายังแผ่นดินซึ่งพระองค์ได้พระราชทานแก่บรรพบุรุษของพวกเขา
    • 35 เมื่อฟ้าสวรรค์ถูกปิดอยู่ และไม่มีฝน เพราะเหตุพวกเขาได้กระทำบาปต่อพระองค์ ถ้าพวกเขาอธิษฐานตรงต่อสถานที่นี้ และกล่าวยอมรับพระนามของพระองค์ และหันกลับเสียจากบาปของพวกเขา เมื่อพระองค์ทรงทำให้พวกเขารับความทุกข์ใจ
    • 36 แล้วขอพระองค์ทรงสดับฟังในสวรรค์ และขอทรงยกโทษบาปของพวกผู้รับใช้ของพระองค์ และของอิสราเอลประชากรของพระองค์ เพื่อพระองค์จะทรงสอนวิถีทางที่ดีแก่พวกเขา ซึ่งพวกเขาควรดำเนินในนั้น และขอประทานฝนบนแผ่นดินของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานแก่ประชากรของพระองค์เป็นมรดกนั้น
    • 37 ถ้ามีการกันดารอาหารในแผ่นดิน ถ้ามีโรคระบาด ข้าวแห้งตาย รากินข้าว ตั๊กแตนวัยบิน หรือตั๊กแตนวัยคลาน ถ้าศัตรูของพวกเขาปิดล้อมพวกเขาไว้ในแผ่นดินแห่งนครทั้งหลายของพวกเขา จะมีภัยพิบัติอย่างใด ความเจ็บไข้อย่างใดก็ดี
    • 38 ไม่ว่าคำอธิษฐานและคำวิงวอนประการใดซึ่งคนหนึ่งคนใด หรืออิสราเอลประชากรของพระองค์ทั้งสิ้นทูลขอ ผู้ซึ่งจะสำนึกถึงเรื่องภัยพิบัติแห่งใจของพวกเขาทุกคน และกางมือของเขามาทางพระนิเวศน์นี้
    • 39 เมื่อนั้นขอพระองค์ทรงสดับฟังในสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงยกโทษ และทรงกระทำ และประทานแก่ทุกคนตามวิถีทางทั้งหลายของเขา ซึ่งพระองค์ทรงทราบใจของเขา (เพราะพระองค์ คือพระองค์เท่านั้น ทรงทราบใจทั้งหลายแห่งลูกทั้งสิ้นของมนุษย์)
    • 40 เพื่อพวกเขาจะได้เกรงกลัวพระองค์ตลอดวันทั้งหลายที่พวกเขาอาศัยอยู่ในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานแก่บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์
    • 41 ยิ่งกว่านั้นอีกเกี่ยวกับคนแปลกหน้า ผู้ที่ไม่ใช่ของอิสราเอลประชากรของพระองค์ แต่มาจากแผ่นดินไกล เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
    • 42 (ด้วยว่าพวกเขาจะได้ยินถึงพระนามใหญ่ยิ่งของพระองค์ และถึงพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ของพระองค์ และถึงพระกรที่เหยียดออกของพระองค์) เมื่อเขาจะมาและอธิษฐานตรงต่อพระนิเวศน์นี้
    • 43 ขอพระองค์ทรงสดับฟังในสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงกระทำตามทุกสิ่งที่คนแปลกหน้านั้นทูลขอต่อพระองค์ เพื่อที่ชนชาติทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลกจะรู้จักพระนามของพระองค์ ที่จะเกรงกลัวพระองค์ เช่นเดียวกับอิสราเอลประชากรของพระองค์กระทำอยู่นั้น และเพื่อพวกเขาจะได้ทราบว่า พระนิเวศน์นี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้ได้ถูกเรียกตามพระนามของพระองค์
    • 44 ถ้าประชากรของพระองค์ออกไปเพื่อสู้รบต่อศัตรูของพวกเขา ไม่ว่าพระองค์จะทรงส่งพวกเขาไปยังที่ใดก็ตาม และจะอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์ตรงต่อนครซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกสรรไว้ และตรงต่อพระนิเวศน์ที่ข้าพระองค์ได้สร้างไว้สำหรับพระนามของพระองค์
    • 45 เมื่อนั้นขอพระองค์ทรงสดับฟังในสวรรค์คำอธิษฐานของพวกเขาและคำวิงวอนของพวกเขา และขอทรงรักษาสิทธิ์อันชอบธรรมของพวกเขาให้คงอยู่
    • 46 ถ้าพวกเขาทำบาปต่อพระองค์ (เพราะไม่มีมนุษย์คนใดที่ไม่ทำบาป) และพระองค์ทรงกริ้วต่อพวกเขา และทรงมอบพวกเขาไว้กับศัตรู จนพวกศัตรูนำพวกเขาไปเป็นพวกเชลยยังแผ่นดินของศัตรูนั้น ไม่ว่าไกลหรือใกล้
    • 47 แต่ถ้าพวกเขาจะสำนึกตัวในแผ่นดินซึ่งพวกเขาถูกนำไปเป็นพวกเชลย และกลับใจ และทูลวิงวอนต่อพระองค์ในแผ่นดินของคนเหล่านั้นที่นำพวกเขาไปเป็นพวกเชลย โดยทูลว่า ‘พวกข้าพระองค์ได้ทำบาป และได้กระทำอย่างวิปลาส พวกข้าพระองค์ได้กระทำความชั่ว’
    • 48 และจึงหันกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดใจของพวกเขา และด้วยสุดจิตของพวกเขาในแผ่นดินแห่งบรรดาศัตรูของพวกเขา ผู้ซึ่งได้นำพวกเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อแผ่นดินของพวกเขา ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานแก่บรรพบุรุษของพวกเขา คือนครซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศน์ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์
    • 49 แล้วขอพระองค์ทรงสดับฟังคำอธิษฐานและคำวิงวอนของพวกเขาในสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงรักษาสิทธิ์อันชอบธรรมของพวกเขาให้คงอยู่
    • 50 และขอทรงยกโทษประชากรของพระองค์ผู้ได้ทำบาปต่อพระองค์ และการละเมิดทั้งสิ้นของพวกเขา ซึ่งพวกเขาได้ละเมิดต่อพระองค์ และขอทรงโปรดประทานความกรุณาแก่พวกเขาต่อหน้าคนเหล่านั้นที่ได้นำพวกเขาไปเป็นเชลย เพื่อคนเหล่านั้นจะได้มีความกรุณาต่อพวกเขา
    • 51 เพราะว่าพวกเขาเป็นประชากรของพระองค์ และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงนำออกมาจากอียิปต์ จากท่ามกลางเตาหลอมเหล็กนั้น
    • 52 เพื่อพระเนตรของพระองค์จะเปิดอยู่ต่อคำวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ และต่อคำวิงวอนของอิสราเอลประชากรของพระองค์ เพื่อจะทรงตั้งใจฟังบรรดาเรื่องที่พวกเขาร้องทูลต่อพระองค์
    • 53 เพราะพระองค์ได้ทรงแยกพวกเขาออกจากท่ามกลางชนชาติทั้งสิ้นของแผ่นดินโลก เพื่อให้เป็นมรดกของพระองค์ ตามที่พระองค์ได้ตรัสโดยมือของโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ เมื่อพระองค์ได้ทรงนำบรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ออกมาจากอียิปต์ โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า”
    • 54 และต่อมา เมื่อซาโลมอนได้ทรงจบคำอธิษฐานและคำวิงวอนทั้งสิ้นนี้ต่อพระเยโฮวาห์แล้ว พระองค์ได้ทรงลุกขึ้นจากต่อหน้าแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ จากการคุกเข่าของพระองค์พร้อมกับกางพระหัตถ์ของพระองค์ขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์
    • 55 และพระองค์ได้ประทับยืน และทรงอวยพรชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นด้วยเสียงดัง โดยตรัสว่า
    • 56 “สาธุการแด่พระเยโฮวาห์ ผู้พระราชทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์แล้ว ตามซึ่งพระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ทุกประการ ไม่ได้ล้มเหลวเลยสักคำเดียวของพระสัญญาอันดีทั้งสิ้นของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงสัญญาไว้โดยมือของโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์นั้น
    • 57 ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเราทรงสถิตอยู่กับพวกเราตามที่พระองค์ได้สถิตอยู่กับบรรพบุรุษของพวกเรา ขอพระองค์อย่าทรงละพวกเราหรือทอดทิ้งพวกเราเสีย
    • 58 เพื่อพระองค์จะได้ทรงโน้มใจของพวกเราให้มาหาพระองค์ เพื่อจะดำเนินในทางทั้งสิ้นของพระองค์ และเพื่อจะรักษาบรรดาพระบัญญัติของพระองค์ และกฎเกณฑ์ทั้งหลายของพระองค์ และเหล่าคำตัดสินของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงบัญชาบรรพบุรุษของพวกเรา
    • 59 และขอให้บรรดาถ้อยคำเหล่านี้ของเรา ซึ่งเราได้วิงวอนขอต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ อยู่ใกล้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเราทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อพระองค์จะทรงรักษาสิทธิ์อันชอบธรรมของผู้รับใช้ของพระองค์ และรักษาสิทธิ์อันชอบธรรมของอิสราเอลประชากรของพระองค์ตลอดเวลา ตามความต้องการของสิทธิ์อันชอบธรรมนั้น
    • 60 เพื่อบรรดาชนชาติทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินโลกจะได้ทราบว่า พระเยโฮวาห์นั้นทรงเป็นพระเจ้า และไม่มีองค์อื่นเลย
    • 61 เพราะฉะนั้นขอให้ใจของพวกท่านดีพร้อมต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเรา เพื่อจะดำเนินอยู่ในบรรดากฎเกณฑ์ของพระองค์ และเพื่อจะรักษาพระบัญญัติทั้งหลายของพระองค์ เหมือนอย่างวันนี้”
    • 62 และกษัตริย์ และคนอิสราเอลทั้งสิ้นพร้อมกับพระองค์ ได้ถวายเครื่องสัตวบูชาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
    • 63 และซาโลมอนได้ทรงถวายเครื่องสัตวบูชาแห่งบรรดาเครื่องสันติบูชา ซึ่งพระองค์ได้ทรงถวายแด่พระเยโฮวาห์ คือวัวตัวผู้สองหมื่นสองพันตัว และแกะหนึ่งแสนสองหมื่นตัว ดังนี้แหละกษัตริย์และลูกหลานของอิสราเอลทั้งสิ้นได้มอบถวายพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์
    • 64 ในวันเดียวกันนั้น กษัตริย์ได้ทรงทำพิธีชำระส่วนกลางของลานที่อยู่ข้างหน้าพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์ เพราะว่าที่นั่นพระองค์ได้ทรงถวายบรรดาเครื่องเผาบูชา และเครื่องธัญญบูชาทั้งหลาย และส่วนไขมันของเหล่าเครื่องสันติบูชา เพราะว่าแท่นทองเหลืองที่อยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์นั้นเล็กเกินกว่าที่จะรับบรรดาเครื่องเผาบูชา และเครื่องธัญญบูชาทั้งหลาย และส่วนไขมันของเหล่าเครื่องสันติบูชา
    • 65 และในเวลานั้น ซาโลมอนได้ทรงฉลองเทศกาล และอิสราเอลทั้งสิ้นพร้อมกับพระองค์ เป็นชุมนุมชนใหญ่โตยิ่งนัก ตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัทไปจนถึงแม่น้ำแห่งอียิปต์ ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเรา เป็นเวลาเจ็ดวันและอีกเจ็ดวัน คือสิบสี่วัน
    • 66 ในวันที่แปดพระองค์ได้ทรงส่งประชากรจากไป และพวกเขาได้ถวายพระพรแด่กษัตริย์ และกลับไปยังเต็นท์ทั้งหลายของตนด้วยความชื่นบานและด้วยใจยินดี เพราะเหตุความดีทั้งสิ้นที่พระเยโฮวาห์ได้ทรงกระทำเพื่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และเพื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์
  • King James Version (kjv)
  • Thai from kjv (thai - 3)

    2025-04-16

    Thai (th)

    Thai translation of the King James Version
    from https://thaipope.org/webbible/
    Permission granted by Philip Pope to the CrossWire Bible Society to use and distribute the Thai KJV as a SWORD module.

    • Encoding: UTF-8
    • Direction: LTR
    • LCSH: Bible.Thai
    • Distribution Abbreviation: Thai KJV

    License

    Copyrighted; Permission to distribute granted to CrossWire

    Source (OSIS)

    https://thaipope.org/webbible/

    history_1.5
    Module created on 2003-09-24
    history_2.0
    Module rebuilt on 2012-02-13, from updated source text supplied by translator
    history_3.0
    (2025-04-16) Module rebuilt from latest updated source text supplied by translator

Basic Hash Usage Explained

At getBible, we've established a robust system to keep our API synchronized with the Crosswire project's modules. Let me explain how this integration works in simple terms.

We source our Bible text directly from the Crosswire modules. To monitor any updates, we generate "hash values" for each chapter, book, and translation. These hash values serve as unique identifiers that change only when the underlying content changes, thereby ensuring a tight integration between getBible and the Crosswire modules.

Every month, an automated process runs for approximately three hours. During this window, we fetch the latest Bible text from the Crosswire modules. Subsequently, we compare the new hash values and the text with the previous ones. Any detected changes trigger updates to both our official getBible hash repository and the Bible API for all affected translations. This system has been operating seamlessly for several years.

Once the updates are complete, any application utilizing our Bible API should monitor the hash values at the chapter, book, or translation level. Spotting a change in these values indicates that they should update their respective systems.

Hash values can change due to various reasons, including textual corrections like adding omitted verses, rectifying spelling errors, or addressing any discrepancies flagged by the publishers maintaining the modules at Crosswire.

The Crosswire initiative, also known as the SWORD Project, is the "source of truth" for getBible. Any modifications in the Crosswire modules get reflected in our API within days, ensuring our users access the most precise and current Bible text. We pledge to uphold this standard as long as getBible exists and our build scripts remain operational.

We're united in our mission to preserve the integrity and authenticity of the Bible text. If you have questions or require additional information, please use our support system. We're here to assist and will respond promptly.

Thank you for your understanding and for being an integral part of the getBible community.

Favourite Verse

You should select one of your favourite verses.

This verse in combination with your session key will be used to authenticate you in the future.

This is currently the active session key.

Should you have another session key from a previous session.
You can add it here to load your previous session.

1 กษัตริย์ 8:

Sharing the Word of God with the world.
  • Share Text
    ...
  • Share Link

Bible Verse of the Day